ขึ้นชื่อเรื่องใจบุญ แล้วก็ชอบช่วยเหลือคนอื่นๆอยู่แล้ว สำหรับนักร้องลูกทุ่งอีสานชื่อดัง ‘ก้อง ห้วยไร่’ ที่ปัจจุบัน ออกมาประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวอนุญาตให้พี่น้อง นักร้องนักดนตรีอาชีพ สามารถนำเพลงของตนไปร้องตามร้านอาหาร

รวมทั้งสามารถนำเพลงไปใช้เพื่อทำมาหากินได้ โดยที่จะไม่เก็บลิขสิทธิ์ของเพลงเลยแม้แต่บาทเดียว โดย ‘ก้อง ห้วยไร่’ กล่าวว่า “ศิลปิน วงดนตรี ร้านอาหาร สามารถใช้เพลงของ ก้อง ห้วยไร่ แล้วก็ ฐา ขนิษ ในการร้องคาราโอเกะ

เล่นสด หรือเปิด ได้ โดยไม่เก็บลิขสิทธิ์ใดๆก็ตามรัก ยิ่งลำบาก ยิ่งจะต้องเห็นอกเห็นใจกัน” พร้อมอธิบายเพิ่มอีกว่า “ค่ายใหญ่ องค์กรใหญ่ มันเป็นรายได้ที่เขาควรได้รับครับอย่าเอาไปเปรียบกันแต่ว่าเนื่องจากว่าผมไม่มีค่ายเพลง

เป็นเพียงแค่องค์กรเล็ก เลยสามารถแบ่งปันให้พี่น้องศิลปินได้ไปทำมาหากินกันได้โดยที่ตัวเองไม่ได้รับผลกระทบมาก เป็นผลดีด้วย รักครับ” งานนี้ภายหลังมีการอัพเดตข้อความไป หลายๆคนที่เป็นนักดนตรีกลางคืน

รวมทั้งแฟนคลับก็พากันมาไลค์รวมทั้งขอบคุณหนุ่มก้อง รวมทั้งกล่าวว่าขอให้เจริญก้าวหน้าๆคนบ้านเดียวกันทั่วประเทศ ใจดีแบบนี้รัก ‘ก้อง’ มาก บ้างก็พูดว่าเป็นตัวอย่างเสมอ รักอีกด้วย แล้วก็นอกจากการแบ่งปันเพลงโดยไม่คิดเงินแล้ว

‘ก้อง ห้วยไร่’ ยังเปิดธุรกิจใหม่ร้าน ‘อีหลีน่าคาเฟ่’ สวนกระแสเศรษฐกิจ เป็นความหวังของหมู่บ้าน สร้างเอาไว้เพื่อรองรับคนไม่มีงานทำ เป็นการสร้างอาชีพใหม่ ให้คนไม่มีงานทำได้เข้ามาค้าขายสร้างรายได้โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าที่

ใน จ.สกลนคร ให้มาขายสินค้า มีเงินใช้จ่ายตอนที่ไม่มีงานจ้าง โดย ‘ก้อง ห้วยไร่’ ที่มาร่วมงานแถลงข่าว ดูภาพยนตร์ที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ตนได้ช่วยพี่น้องร่วมอาชีพในยามวิกฤต

“ความแน่นอนมันไม่มีในโลกจริงๆในวันที่เราเฟื่องฟูพี่น้องนักแสดงผมหลายๆคนกำลังเริ่มจะมีชื่อเสียง กำลังเริ่มจะมีงานจ้าง ต้องการจะมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ไปซื้อบ้านซื้อรถยนต์เสร็จ พอพบสถานการณ์แบบนี้มา 3 ปีติดต่อกัน เราเห็นเพื่อนๆ

เราโพสต์กันไม่ไหวแล้ว เงินจ่ายค่ารถค่าบ้านมันเริ่มไม่ไหวแล้ว เป็นห่วง แล้วเรามีความรู้สึกว่าเราจะต้องสู้กันนะ เราอย่าเห็นว่าต้องมีอาชีพเดียว ทุกคนจะต้องมีหลายอาชีพ ผมใช้สนามฟุตบอลที่บ้านผม เป็นศูนย์รวมคนไม่มีงานทำ แดนเซอร์

หมอลำ ชาวบ้าน ให้เอาของมาขายในสนามโดยที่รายได้ให้พวกเขาไปทั้งหมด โอเคมันก็ควรจะมีการลงทุนสักนิดเพราะว่าถ้าเกิดจะสร้างอะไรก็ควรมีอะไรที่เป็นสิ่งปลูกสร้าง จากสนามฟุตบอลธรรมดาก็เริ่มมีเป็นคาเฟ่

มีที่ทานข้าว แล้วเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งเกิดสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่คือ ถ้ำนาคา ที่บึงกาฬ ซึ่งมันเป็นทางผ่านจากอุดรฯ ไป ทำให้ชาวบ้าน พี่น้องนักแสดงของผมมีอาชีพกัน อย่างน้อยไม่อด ขายของไม่ได้

แต่ว่าของที่เราขายมันก็ยังเป็นอาหารให้เรารับประทานโดยไม่เป็นภาระกับครอบครัว คือเขาก็ได้รายได้จากนี้บ้างครับ แต่ว่าบางทีอาจจะไม่ใช่เป็นรายได้หลัก บางทีเงิน 10 20 50 บาท สามารถซื้อกับข้าว ซื้อปลาทูมาตัวหนึ่ง

และก็ทำเป็นน้ำพริกกินก็รับประทานอิ่มทั้งยังครอบครัวได้เลย เนื่องจากข้าวเรามี เราปลูกข้าวกันอยู่แล้ว ผักเรามี แต่ว่าถ้าหากไม่มีเงิน ไม่มีรายได้เลยมันก็ไม่ได้ อนาคตข้างหน้ามันบอกไม่ได้ พบข่าวบ่อยมากอยากเป็นกำลังใจให้พี่น้องศิลปิน

อยากที่จะให้พี่ๆแฟนๆแฟนเพลงเป็นกำลังใจให้พวกเขาเหล่านี้ด้วยครับ ก็พยายามหากิจกรรมเพราะบ้านเรามันเงียบจริงๆมันไม่มีกิจกรรมอะไรเลย ต่อไปนี้ก็ขอกิจกรรมทางผู้หลักผู้ใหญ่ว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่ใช่คอนเสิร์ต

เพราะว่าคอนเสิร์ตมันโอกาสเสี่ยงสูง ก็เป็นกิจกรรมกีฬา อย่างน้อยเป็นกีฬาพื้นบ้านให้คนรอบๆละแวกนั้นมาท่องเที่ยวที่สนามเตะฟุตบอลกัน บรรดานักกีฬาก็ซื้อข้าวซื้อน้ำในสนามแล้วเงินก็หมุนเวียนกันอยู่ในนั้นครับ”