
Uncategorized
ชีวิตล่าสุด อ้อยใจ แดนอีสาน
อดีตที่เคยดังเป็นพลุแตกจากผลงานลูกทุ่งเบรกแตก สำหรับนักร้องรุ่นใหญ่อย่าง อ้อยใจ แดนอีสาน จากคนที่เคยมีค่าตัวเป็นแสนๆแต่ว่าในตอนนี้เธอได้กลายเป็นแม่ค้าขายยำแหนมเต็มตัวไปแล้ว

ปัจจุบันเจ้าตัวมีโอกาสได้มาเปิดใจกับ หนูแหม่ม สุริวิภา ถึงชีวิตตอนนี้ ซึ่งเธอเล่าว่าจะต้องเตรียมของและก็เข็นรถมาขายยำแหนมเป็นประจำทุกวัน หน้าโลตัสพุทธมณฑลสาย 4

ปัจจุบันนี้ยึดอาชีพขายยำแหนม ซึ่งเป็นอาชีพเดิม จะไปทำงานนั่งโต๊ะก็ความรู้ไม่มี จบเพียงแค่ เปรียญ4 ปัจจุบันนี้ขายของไม่เคยรู้เท่าไหร่ เพราะว่าจะซื้อข้าวให้สุนัข แต่ว่าเราก็ไม่เคยอดอยากนะมีกินตลอด

เพียงแค่ไม่สบายเหมือนตอนร้องเพลง แฟนเพลงมองเห็นก็จำได้ บางวันจะต้องทานข้าวคลุกเกลือเพียงแค่มื้อเดียว ตอนนี้ใช้ชีวิตลำพังเคยถูกคนเมาบุกเข้าบ้านจนกระทั่งฝังใจทำให้บางวันไปขออาศัยบ้านแฟนๆนอน

ลูกทุ่งดังในวันนั้นในตอนนี้มีดวงตาที่มองไม่เห็นอีก ชีวิตของเธอนั้นพลิกผันเปลี่ยนไปจากจุดสูงสุดมาอยู่ จากนักร้องลูกทุ่งชื่อเสียงมีชื่อเสียงที่ทุกคนนั้นรู้จักกันในชื่อ อ้อยใจ แดนอีสาน

นอกจากชีวิตที่เปลี่ยนลงมาอยู่จุดต่ำที่สุดเธอยังต้องมาขายแหนมเร่เดินเท้าไปตามถนนหนทาง เพื่อหาเลี้ยงตัว ขอนอนบ้านแฟนคลับ

ปัจจุบันอดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อ้อยใจ นั้นได้ออกมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนชีวิตของเธอเป็นครั้งแรกว่า ปัจจุบันนี้ดวงตาของเธอนั้นไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไปหนึ่งข้าง

ชีวิตของเธอเวลานี้เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก จากในอดีตเคยหาเป็นแสนได้อย่างง่ายๆและก็มีชื่อเสียงโด่งดังทำให้คนรู้จักเธอในชื่อ ลูกทุ่งเบรกแตก

แต่ว่าในตอนนี้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงลงมาจุดต่ำสุด ต้องเดินเร่มาทำงานมาเป็นแม่ค้าขายยำแหนมอย่างเต็มตัวไปแล้ว

เธอนั้นขายแบบนี้มาตั้งแต่ตอนที่เธอเข้าวงการ เนื่องจากคนในครอบครัวของเธอนั้นมีอาชีพขายยำแหนมทุกคน บางครั้งเมื่อก่อนเรานั้นต้องเดินหาบมาขายประมาณ 6-7 หาบ

และก็ทุกคนในครอบครั้วนั้นก็สามารถขายได้หมด ตกตอนเย็นจะมาเราก็จะมานั่งคุยกันแล้วถามกันว่า วันนี้แต่ละคนนั้นขายได้เท่าไหร่ ในตอนนั้นมันก็รู้สึกสนุกดี

ปัจจุบันนี้เธอพูดว่าเธอนั้นกำลังออกเดินขายอยู่ที่พุทธมณฑลสาย 4 อยู่บริเวณหน้าป้ายรถเมล์ ทุกคนมีหล่นแน่นอน แต่เราจะยอมรับได้ไหมว่าเมื่อก่อนเราเคยมีชื่อเสียง

แต่ว่าในตอนนี้ชีวิตเราเป็นอย่างนี้ เป็นคนเราทำอะไรก็ได้อย่าไปสร้างภาระให้กับสังคม อย่าไปยืมตังค์เขา เรามีสองมือของเรา เราทำอะไรก็ได้ให้ดี แล้วเราเองก็จะภูมิใจ

เราไม่เคยถามตัวเองหรอกว่าเพราะเหตุไรชีวิตเราเป็นอย่างนี้ เราอยู่ทางธรรม จิตเราไปทางนั้น แล้วทีนี้คือไม่คิดและไม่จมปลักอยู่ เราไม่เก็บมาคิด

เพราะถ้าหากเราเอาไปคิดมาก แล้วเราอยู่ตัวคนเดียวด้วย ไม่รู้จะไปวางแผนชีวิตไปเพื่ออะไร เพราะว่าชีวิตตัวคนเดียว เราไม่มีญาติพี่น้อง เราไม่มีคนดูแล เราไม่มีใครเลย ใครจะมาดูแลเรา
