
Uncategorized
ชีวิต วิน ธาวิน อดีตพระเอก
หายหน้าหายตาไปนาน สำหรับ ‘วิน ธาวิน เยาวพลกุล’ อดีตพระเอกดังช่องมากสี น้องชายสุดหล่อของ ‘นาวิน ต้าร์ เยาวพลกุล’

ที่ปัจจุบันนี้ในวัย 36 ปี ก็ตัดสินใจลาจากวงการบันเทิงไปเรียนถึงเมืองนอก หลังจบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย

เกษตรศาสตร์ ก็ตกลงใจบินไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา แล้วก็สามารถคว้าสำเร็จปริญญาโท รวมทั้งใช้เวลานานกว่า 5 ปี จนกระทั่งกลับมา

ทำอาชีพอื่นด้วยการกลับมามีผลหน้าที่แสดงไม่กี่เรื่อง และผันตัวเป็นพนักงานออฟฟิศปกติ ทั้งยังยังเป็นครูสอนดำน้ำอีกด้วย โดย

‘วิน ธาวิน’ในตอนนี้ ได้ผันตัวมาเป็นพนักงานด้านวิศวกรรม ที่โรงงานเกลือ เผยออกมาว่า “ผมว่าผมเลยจุดนั้นมาแล้วนะ หากพวกเรารู้สึกน้อยใจ ผมว่า

ผมอยู่มิได้ ผมไม่เคยทราบสึกน้อยใจนะ มันอยู่กับตัวเรา หากเราไม่มีคนดูละคร ช่องเขาก็ไม่ไห้ละครเรา มันขึ้นอยู่กับว่าเราคิดอย่างไง สัญญาหมดปี

2563 คงแก่แล้ว ไม่มีคนมองดูพวกเราแล้ว ในเวลาที่ผ่านมา ผมมิได้ขวนขวาย แม้กระนั้นจังหวะเข้ามา สิ่งที่พวกเราอยากที่สุดบางโอกาสมันมาในขณะที่

เราไม่อยาก เราต้องพร้อมที่จะพบเจอกับมันเมื่อมันเข้ามา” แต่ถึงแบบนั้นเมื่อหวนมารับงานวงการอีกรอบ กลับถูกเปรียบเทียบกับ

พระเอกเพื่อนซี้ ‘เวียร์ ศุกลวัฒน์’ โดย ‘วิน ธาวิน’ เผยออกมาว่า “กระแสเปรียบเทียบกับเวียร์ก็มีความคิดว่าทำงานที่ได้รับมอบหมายมาให้เต็มที่ดีมากกว่า

เรื่องเปรียบเทียบมันมีปกติอยู่แล้ว เนื่องจากว่าทุกสิ่งก็ควรจะมีการเปรียบเทียบ ตัววิน วินก็เห็นว่ารอดูที่ผลงานดีกว่าว่าจะออกมาเป็นยังไง”

นอกจากนั้น เมื่อถูกถามเรื่องหัวใจ โดย ‘วิน ธาวิน’ ก็ได้เผยไว้เมื่อตอนปี พ.ศ. 2559 ไว้ว่า “เป็นคนไทยครับ เป็นคนนอกวงการ คุยกันมาสักพักแล้วประมาณ2 ปี ดูกันไปเรื่อยลักษณะ

ส่วนตัวของวินก็คือหากว่าทำงานวินก็ทำงาน แต่ถ้าหากนอกเวลางานเราก็เจอกันได้ปกติ เป็นเราไม่เอามาเกี่ยวข้องกันอยู่แล้วครับ อีกอย่างผมเองก็ไม่ได้อายุน้อยๆแล้ว เพราะฉะนั้นการที่เรามีคนคุยด้วยมันก็

ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะหากว่าไม่มีมันก็คงแปลกอยู่เหมือนกัน รวมถึงที่สำคัญอาชีพดารามันก็คือคนธรรมดานะ เราก็มีชีวิตราวกับคนเดินดินคนหนึ่ง ไม่ได้เป็น

เรื่องแปลกอะไร” คุยกันมาก็ระยะหนึ่งแล้ว แบบงี้เริ่มมีแพลุกลี้ลุกลนเรื่องอนาคตหรือยัง “ยังมิได้แพลนลานเลยขอรับ เป็นผมเป็นห่วงเรื่องของทุกวันนี้

มากยิ่งกว่ามากกว่า เช่นหน้าที่การงาน ส่วนเรื่องครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ผมท่านก็ไม่ได้กดดันอะไรอยู่แล้ว ดังนั้นมันเลยไม่ได้ทำให้ผมมีความคิดว่ารีบแต่งงานหรืออะไร เพรามันยังไม่ใช่เป้าหมายชีวิตเรา”
