
Uncategorized
ชีวิต เปียทิพย์ คุ้มวงศ์ ในวัย74ปี
ถ้าหากพูดถึงนักแสดงหญิงมากความสามารถ เชื่อว่าชื่อของ เปียทิพย์ คุ้มสกุล ต้องอยู่อันดับที่หนึ่งอย่างแน่นอน สำหรับ เปียทิพย์ นักแสดงหญิงชาวไทย

ฉายา แม่เปียดื้อ เกิดวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2491 ที่กรุงเทพมหานคร เปียทิพย์ ไปสู่วงการบันเทิงขณะเรียนมัธยมที่โรงเรียนสายปัญญา

โดยเริ่มจากการเป็นนักร้องร่วมกับ ครูนารถ ถาวรบุตร ที่วงดนตรีโรงงาน ก่อนที่จะเป็นนักร้องประจำไนท์คลับต่างๆพร้อมกับได้แสดงละครเรื่อง

เงาร่ายในดวงตา ของคณะชื่นรวมกันศิลป์ทางช่อง 4 บางขุนพรหม เป็นเรื่องแรก ต่อด้วย สาปสวรรค์ รวมทั้ง ปราสาทมืด กับคณะเชนย์รัชดา

ละครที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอที่สุดในตอนวัยสาวคือ เรื่องอีสา เมื่อปี พ.ศ. 2517 ส่วนละครที่สร้างชื่อให้กับเธอที่สุดในช่วงวัยกลางคนคือ

วัลลี เมื่อปี พ.ศ. 2528 ต่อมาก็เลยได้รางวัลเดิมเป็นครั้งที่สองในปี พ.ศ. 2520 จากเรื่อง เงาราหู กำกับโดย เปี๊ยก โปสเตอร์ ต่อจากนั้นก็เลยมีผลงานทางจอเงิน

อีกหลายเรื่อง และปี 2520 ความสำเร็จในชีวิตการแสดงนั้น เปียทิพย์ พูดว่า เกิดจากการทำการบ้านอย่างสม่ำเสมอ เช่น เล่นเป็นคนบ้า

ก็จะนำภาพที่ได้ไปนั่งดูพฤติกรรมของคนบ้ามาปรับใช้กับการแสดง ระหว่างขับรถมองเห็นคนบ้าก็จะแอบตามพุ่มไม้แล้วจะดูพฤติกรรมของเขาว่า

เขาบ้าจริงไหม บางคนบ้าแล้ว ยังสวมเสื้อผ้าคนเหล่านี้ ก็น่ายังมีสติอยู่บ้าง จากการสังเกตดังกล่าวก็ทำให้นำไปปรับใช้กับการแสดงจนกระทั่งสามารถเป็นดาราที่ดี

จนกว่าในปี พุทธศักราช 2524 ได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ จากเรื่อง อาอี๊ ซึ่งเล่นบทเป็นแม่ของนางเอก (วาสนา สิทธิเวช) ในช่วงแรกที่ไปสู่วงการ

เปียทิพย์มักมากเล่นบทหญิงสาวงามเมื่อแก่ขึ้นก็เลยได้รับบทชีวิต ที่ย้ำความรู้ความเข้าใจทางการแสดง ชีวิตส่วนตัวแต่งงานแล้ว แล้วก็มีลูกสาว 4 คน

โดยลูกสาวทุกคนของเธอนั้นเติบโต รวมทั้งสามารถดูแลตัวเองและครอบครัวได้แล้ว ก็เลยไม่มีห่วงอะไรนัก ปัจจุบันนี้เปียทิพย์ไม่ได้มีงานแสดงชุกเหมือนแต่ก่อนมาก

ทำให้มีเวลาที่ทำบุญสร้างกุศลให้กับตนเอง ด้วยการทำอาหารเลี้ยงหมาที่มีคนเอามาทิ้งเอาไว้หน้าบ้านราวๆ8 ตัว แล้วยังนำอาหารที่ทำทุกเข้าเดินออกไป

ให้สุนัขจรจัดที่ต่างเฝ้ารอของกินอยู่ในละแวกใกล้บ้านอีกหลายซอย ทำแบบนี้มาเป็นเวลากว่า 10 ปี ค่าของกินที่ทำก็ตกเดือนละหมื่นในใจกลับหวังอยู่

อย่างเดียวว่า บุญนี้ที่ได้ทำจะได้ไม่อดไม่ได้อยาก ทำแล้วเป็นความสุขทางใจอย่างหนึ่ง
