“เข้ม หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล” พระเอกละคร “เขยบ้านไร่ สะใภ้ไฮโซ” กลับบ้านที่ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อไปผ่อนผันทหาร

เผยโมเมนต์น่ารักกับคุณยาย อ้อนกันสุดน่ารัก เรียกว่าเป็นผู้ชายไมโครเวฟตัวจริง อบอุ่นสวยทั้งคุณยายคุณหลานไปเลย

นานๆจะได้เห็นโมเมนต์น่ารักขิง “เข้ม หัสวีร์” กับคุณยาย อ้อนกันน่ารัก เมื่อเจ้าตัวได้กลับบ้านเกิดที่จังหวัดบึงกาฬ

เรียกว่าบรรดาสาวๆที่ได้เจอก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เข้มน่ารัก และเป็นกันเองอย่างมาก ส่วนสาวที่อยู่ในใจของหนุ่มเข้มเสมอ

คือ คุณยายสุดที่รักที่เข้ม ที่อวดโมเมนต์น่ารัก ขี่จักรยานคันจิ๋วโดยมีคุณยายซ้อนท้ายโมเมนต์สุดแสนที่จะน่ารัก

แบบนี้บอกเลยว่าอากาศที่ว่าหนาว เจอลุคแบบนี้ของเข้มเข้าไป อบอุ่นมากทีเดียว

ผู้ชายรักครอบครัว เป็นที่รู้กันว่า เข้ม หัสวีร์ นั้นเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวมาเป็นอันดับ 1

ทุกอย่างในชีวิตตอนนี้พุ่งเป้าไปที่ครอบครัว แต่เพราะอะไรเข้มถึงให้ความสำคัญกับครอบครัวมากขนาดนี้

“ตอนอายุ 18 ปี เรียนจบ ปวช.เข้ามาหางานทำที่กรุงเทพฯ ได้งานเป็นช่างเชื่อมเหล็ก แล้วไม่มีเงินกินข้าว

สำหรับผมตอนนั้นมันเคยเกือบตาย ผมไม่ได้กินข้าว 3 วัน ไม่ได้คุยกับครอบครัว รวมทั้งตอนนั้นมีศักดิ์ศรีว่าจะไม่ขอใคร และตั้งแต่วันที่ออกมาทำงานก็ไม่ได้ติดต่อใคร

ผมเลยออกไปหาเพื่อน เริ่มทำงาน รับจ้างทั่วไป รับจ้างขนฟาง เกี่ยวข้าว แข่งเรือรับจ้าง ได้ค่าจ้าง 150-200 ก็เยอะสำหรับผมในตอนนั้น

เอาจริงๆตอนนั้นผมรู้สึกเคว้ง คิดไปเองว่าไม่มีที่ปรึกษา ทั้งๆที่จริงผมมีที่ปรึกษา เพราะครอบครัวซัพพอร์ตผมนะ แต่ผมเองที่เลือกจะเกเรเอง ผมไม่อยากขอเงินใคร”

ฟีดแบ็กละครก็ดี แถมถูกแซวเทียบชั้นรุ่นพี่ ศรราม เทพพิทักษ์ “การที่มีคนรู้จักผมแล้วผมจะต้องเปลี่ยนตัวเองมั้ย ผมคงไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น ผมอยากเป็นตัวเองมากกว่า

ให้คนรู้จักตัวเราในแบบที่เราเป็น ผมเป็นลูกอีสาน ยังพูดอีสานกับครอบครัว ยังกินอาหารอีสานปกติเหมือนที่เคยกิน

แต่เรื่องการเทียบชั้นกับพี่หนุ่ม เพราะว่าพี่หนุ่มเป็นนักแสดงมากความสามารถ เล่นละครเรื่องไหนดังเรื่องนั้น ถ้าบอกว่าผมคล้ายพี่เขาผมก็ดีใจสิครับ เมื่อก่อนผมอาจจะไม่คิดอะไร

พอมีคนทัก ผมก็ทำความรู้จักพี่หนุ่มผ่านสื่อต่างๆสิ่งที่พี่เขาเป็น เขาเป็นคนเก่ง ทำงานเก่ง รักครอบครัว มีความกตัญญู พี่เขาชอบทำบุญ พี่เขาคือไอดอลของผม

การถูกเปรียบเทียบกลับทำให้ผมรู้สึกอยากทำอย่างพี่เขา มีพี่เขาเป็น ต้นแบบ แต่สุดท้ายเราก็คือตัวเราเอง เราคงเหมือนพี่เขาไปทุกอย่างไม่ได้”