เรียกว่าท้าทายความสามารถสุดๆ สำหรับนางเอกสาว โบว์-เมลดา สุศรี กับการมาประเดิมเล่นละครเรื่องแรกให้กับบ้านหลังใหม่ทางช่อง 3 กับละครเรื่อง มนต์รักหนองผักกะแยง

ซึ่งงานนี้สาวโบว์ต้องโชว์ทักษะพูดภาษาอีสานทั้งเรื่อง แล้วยังต้องฝึกทำไร่ ทำนา ใช้ชีวิตเป็นเกษตรกรอย่างจริงจัง บอกเลยว่าทำเอาสาวโบว์สนุกและตื่นเต้นทุกซีน

ครั้งแรก ซึ่งงานนี้สาวโบว์ต้องโชว์ทักษะพูดภาษาอีสานทั้งเรื่อง แล้วยังต้องฝึกทำไร่ ทำนา ใช้ชีวิตเป็นเกษตรกรอย่างจริงจัง บอกเลยว่าทำเอาสาวโบว์สนุกและตื่นเต้นทุกซีน

สาว โบว์ เผยว่า “เรื่องนี้ก็ยากและท้าทายมากค่ะ คาแรกเตอร์ต้องเป็นสาวบ้านนาต้องทำการเกษตรเป็นทุกอย่าง คือ ชมพู่ เขาจะเป็นสาวที่ห้าวๆ ลุยมากๆ มากค่ะ

แล้วก็เรื่องภาษาก็มีปรับค่ะ ถึงแม้ว่าพ่อแม่ของโบว์ จะเป็นคนอีสาน แต่ก็จะมีสำเนียงและภาษาที่ไม่เหมือนกัน คือแม่โบว์เป็นคนภูไท

สำเนียงก็จะไม่ใช่ภาษาอีสานแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีความเหน่ออยู่หน่อยๆ ส่วนพ่อก็เป็นคนขอนแก่น ซึ่งเราก็ไม่ค่อยได้พูดกันมากนัก ทำให้ไม่ได้เรียนรู้ภาษาอีสานมากขนาดนั้น

เวลาโบว์พูดในละคร ถ้าสังเกต และฟังให้ดี ก็มีเหน่อบ้างเป็นอีสานสุพรรณ บางคำก็แอบลืมบ้าง เพราะโบไม่ได้พูดมานานเหมือนกัน ตั้งแต่มาอยู่ที่กรุงเทพฯ

แต่เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด เต็มที่กับการทำงาน ก็ต้องเรียนพูดเพิ่ม ถามจากทีมงาน จากพี่ณเดชน์บ้าง ซึ่งพี่เขาก็จะช่วยเราเรื่องภาษาอีสานอยู่แล้ว มี ฝึกฟังภาษาอีสานบ่อยๆ ค่ะ

แม้ที่เราเห็นในละครสาวโบว์จะดูเข้าถึงบทได้มาก บอกเลยนอกจอเธอเองก็ยังติดดิน เหมือนสาวอีสานน่ารักๆ วันนี้เราเลยพาทุกคนไปชมบ้านเกิดของเธอ ที่จังหวัด กาญจนบุรี

และไม่เคยอายในความเป็นวิถีลูกทุ่ง แม้จะดีกรีนางเอกสาวชื่อดังแล้วก็ตาม ยังดูแลคุณแม่ เป็นเด็กดี ซึ่งตรงนี้ทำให้ได้ใจแฟนคลับไปเต็มๆ

โบว์ เมลดา เป็นที่รู้จักมาจากการเป็นหนึ่งในสมาชิกเกิร์ลกรุปวัยรุ่นอย่างวง คิส มี ไฟฟ์ ก่อนที่จะเข้าประกวดไทยซุปเปอร์โมเดลคอนเทสต์ 2013 และได้รับตำแหน่งชนะเลิศ

และนอกจากนั้นด้วยความสามารถและความรู้ทีเธอเรียนแผนศิลป์ – ญี่ปุ่นจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้เธอได้รับเกียรติจากสำนักงานที่ว่าการอำเภอเมืองจังหวัดชิซุโอะกะ

ให้เป็นพรีเซนเตอร์แนะนำแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอเมืองนั่นเอง นอกจากจะเป็นคนที่เด่นเรื่องกิจกรรมแล้ว โบว์ ยังเป็นคนที่ขยันและตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก