หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันดีสำหรับ ‘อ้อย จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา’ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและลีลาการแสดงที่โดดเด่น

เรียกได้ว่าเติบโตมาในครอบครัวสายบันเทิง แถมยังเป็นทายาทของศิลปินแห่งชาติ ‘คุณยายมารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา’

ทางด้านชีวิตส่วนตัว ‘อ้อย จิระวดี’ มีทายาทเป็นบุตรสาวและบุตรชายกับอดีตสามี คือ ‘พีช ศศิมา อิศรางกูร ณ อยุธยา’ และ ‘พ็อตตี้ ณัฏฐพล

อิศรางกูร ณ อยุธยา’ ต้องบอกเลยว่าหลายๆคนนั้นอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้าง เพราะมีผลงานละครทางหน้าจอทีวีอยู่บ้าง

โดยก่อนหน้านี้ ‘อ้อย จิระวดี’ ก็เคยให้สัมภาษณ์ถึงเส้นทางในวงการบันเทิงและเรื่องราวชีวิตครอบครัวของเธอไว้ว่า “เริ่มเข้าวงการบันเทิงมา

ตั้งแต่แบเบาะเลยประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นก็มาเล่นหนังน้าดอกดินตอนประมาณ 7-8 ขวบ ปัจจุบันก็ทำหน้าที่เป็นผู้จัด ผู้กำกับ เล่นละครบ้าง

ครูสอนการแสดง” ด้านชีวิตความรัก ‘อ้อย จิระวดี’ เล่าว่า “บอกกันตรงๆ เลย พี่ชอบผู้หญิงตั้งแต่ยังเล็กๆ แต่ด้วยความที่พี่อยากมีครอบครัว

อยากมีบุตรเป็นของตัวเอง ตอนนั้นมีผู้ชายมาจีบ คืออดีตสามีเขา ขอแต่งตอนวัยอลวน คนเข้ามาจีบเยอะ สามีมาขอก็แต่งเลย อายุ 20 ปี”

มีแฟนเป็นผู้หญิงด้วย? “ก็มีอยู่ค่ะ พี่ก็บอกแฟนผู้หญิงพี่ว่า พี่อยากมีครอบครัว อยากแต่งงาน เขาก็บอกโอเค เพราะช่วงชีวิตเรา

มันต้องมีช่วงที่แต่งงาน อยากใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ตอนนั้นก็เป็นความชอบแบบธรรมดาๆ ไม่ถึงขั้นรักหรอก แต่อยากมีครอบครัว พอแต่งงานแล้ว

พี่พลิกตัวเองเลยนะ เริ่มหันมาเป็นผู้หญิงกุลสตรีไทยดูแลอย่างดี หลังจากนั้นพอเขาเริ่มมีบ้านเล็ก ก็เลยคิดว่าจบเท่านี้ดีกว่า แล้วเราก็ควรกลับมา

เป็นตัวเราเอง เพราะตอนนั้นก็กำลังตั้งท้oงบุตรชายคนที่สอง พอคลoดน้องออกมาถึงแยกทางกันจริงๆ ส่วนตัวพี่มองว่าถ้าพี่เป็นคนดีพอ

เขาคงไม่ไปมีผู้หญิงคนอื่น ทุกวันนี้พี่เลยสอนพวกเขาอยู่เสมอว่า คนเราถ้าเรารักใครซักคน ถ้าเขามีความสุขยังไงเราต้องให้เขาตรงนั้น ซึ่งแม่อ้อยก็เป็นเหมือนกัน

คือทำยังไงก็ได้ให้ทายาทบุตรหลานมีความสุข” เรียกได้ว่าเป็นบ้านที่อบอุ่นสุดๆ โดย ‘อ้อย จิระวดี’ พูดเปิดใจเคล็ดลับไว้ว่า “บ้านเรา มีอะไรคุยกัน เราต้องกล้าเปิดใจ

ยอมรับสิ่งใหม่ๆ ยอมรับความคิดของพวกเขา ความคิดเขาเป็นยังไง เราก็ต้องเอามาปรับความคิดเรา บางครั้งเราอาจจะผิด เพราะหนุ่มสาวสมัยนี้เขาสมัยใหม่ เขาเก่งกว่าเรา เราต้องยอมรับ”