
Uncategorized
ภาพปัจจุบัน ยายชา ระเบิดเถิดเทิง
ยายชา ตลกดังที่หลายๆคนยังจำได้ กับภาพในตอนนี้ ยังคงอยู่ในลุคเดิม รับงานแสดง อยู่กับภรรยาสาว อายุห่างกันกว่า 20 ปี

เป็นตลกดังจากรายการ “เถิดเทิง” ที่หลายๆคนยังคงจำได้ กับลุคยายสูงวัยขายกล้วยแขกในรายการ

แต่ว่าหลายๆคนอาจจะไม่รู้ว่าตัวจริงของคุณยายชานั้น เป็นผู้ชายแท้ๆแถมยังมีภรรยาแล้วด้วย ซึ่งภรรยาของเขาก็คือ คุณกุ้ง ที่อายุน้อยกว่าถึง 20 กว่าปี

โดยหลังจบรายการ เถิดเทิง ไปแล้ว คุณยายชา ก็ยังคงรับงานแสดงตลกอยู่อย่างเดิม มีงานแสดงผ่านหน้าจอทีวีอยู่เป็นระยะ

พร้อมอัปเดตผลงานให้ได้ติดตามกันผ่านเฟซบุ๊ก “ตลกยายชา เถิดเทิง” ซึ่งเจ้าตัวก็ยังคงแสดงตัวมาในลุคเดิมอันเป็นเอกลักษณ์

สำหรับชีวิตส่วนตัว ยายชาเถิดเทิง ก็มีรูปคู่กับเมียสาวอัปเดตลงในเพจด้วย ซึ่งทั้งคู่ก็ชอบเดินทางไปทำงานด้วยกัน มีภาพคู่ให้ได้แลเห็นกันอยู่เสมอ

ยายชา ได้บอกว่า ในชีวิตจริงนั้นตัวเองเป็นผู้ชาย แต่งงานมีภรรยาแล้ว ในช่วงเวลานี้ ยายชา ได้มาเปิดใจเล่าชีวิตตัวเองผ่านรายการ

จากข่าวลือที่พูดว่า ยายชาตnอับนั้น ยายชาเล่าว่า ตnอับมันก็ไม่เชิง เขาคัดศิลปินซอยเถิดเทิงออก เราก็เซ แต่ว่าไม่ถึงตnอับ

เพียงแต่ว่าเราจับจุดว่าเราจะไปยังไง ทำอะไรต่อ เพราะอยู่มาถึง 18 ปี ยายชาตกอับไม่มีตังค์ใช้ มันเป็นไปไม่ได้ เรามี แต่เราก็จำเป็นต้องประหยัดบ้าง และก็ตอนไม่มีงานทำก็อยู่บ้าน

คุณปัญญาเขาถามว่าเคยเล่นประจำที่ใด เราก็บอกไป เขาพูดว่าจะเล่นมุกไหนก็ได้แต่จะต้องแต่งเป็นคนแก่ ไม่ต้องบอกอะไร นั่งอยู่ขอบเวทีคืนละ 3 รอบ

ที่เหลือก็เป็นกรุงธนบุรีคอมเพล็กซ์ กรุงธนบุรีพลาซ่า ตั้งแต่เล่นตลกครั้งแรกมาปี 2519 อยู่กับตลกเล็กๆแถวสายใต้เก่า พอมาแผนกตลกซิ่งชิงแชมป์เริ่มเล่นที่ใหญ่ เริ่มมีงานมากขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่นั้นมาก็อยู่กับคุณปัญญาถึง 18 ปี.

“ตอนที่กลับไปบ้านเราก็เห็นยายที่บ้าน ส่วนตัวเป็นคนชอบล้อเลียนคนแก่อยู่และก็เลยนึกสนุก ไปคว้าผ้านุ่งมาใส่

เอาแป้งมาทาผมให้ขาว ต่อมาก็ไปนั่งคุยนั่งเล่นกับยาย ปรากฏยายก็จำไม่ได้ นั่งคุยกันตลกมากมาย เราก็มีความคิดว่าขนาดยายเราแท้ๆ

ยังจำไม่ได้ ก็เลยมีความคิดว่านี่แหละคาแร็กเตอร์ตัวเรา ก็กลับเข้ากรุงเทพฯ อีกครั้ง และจากนั้นก็ได้เล่นตลกเป็นยายเรื่อยมาก

จากแรกๆชื่อ ยายทอมมี่ พอมาเล่นตลกก่อนบ่ายคลายเครียด หม่ำ จ๊กมก มามองเห็นก็พาไปพบคุณปัญญา นิรันดร์กุล ก็เลยได้มาเป็น ยายชา เถิดเทิง อยู่กับบริษัทเวิร์คพอยท์มานับแต่ว่านั้น”
