สำหรับ เชิญจุติ เป็นชื่อที่เพราะมาก จำเค้าได้ในลุ๊คผมสั้น คงจะเรื่อง แชมป์ชีวิต ที่เกี่ยวกับแบตมินตัน ในตอนนั้นติดมากมาย กลับจากโรงเรียนจะต้องเปิดทีวีรอดู ยังมีนางเอกอีกผู้ที่ดังในช่วงนั้นคือ

จิตต์โสภิณ ลิมปิสวัสดิ์ ตัวละครเอกของเรื่อง ซึ่งรับบทบาทโดย “เชิญจุติ มณเฑียรมณี” นางเอกดาวรุ่งผู้พุ่งมาจากแชมป์ว่ายน้ำแห่งอาเซียน มีความชำนาญการว่ายน้ำ-ดำน้ำได้นานที่สุด

เธอจำเป็นต้องดำผุด ดำว่าย ลอยคอในน้ำทะเลที่แสนเค็มและก็ขม โดยเฉลี่ยแล้ววันหนึ่งถึง 7 ชั่วโมงทีเดียว รวมทั้งตากล้อง ผู้กำกับการแสดง จะต้องดำลงไปถ่ายทำกันถึงใต้น้ำ

จากผลงานการประพันธ์ของ “ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก” ผู้ก่อตั้งค่ายละครกันตนาที่อยู่ยงมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ถึงแม้ว่าตัวผู้ก่อตั้งจะจากไปนานแล้ว ผลงานที่ออกมาก็ถือว่าเป็นความใหม่

ที่ผู้จัดละครรายอื่นๆในยุคนั้นยังไม่ได้ทำ แล้วก็เป็นละครที่ลงทุนมากที่สุดในรอบปี พ.ศ.2527 ก็เห็นจะได้ นั่นก็เพราะว่ามีสิ่งใหม่ๆที่ผู้ชมในยุคนั้นได้พิสูจน์กัน และก็เป็นการร่วมทุนสร้าง

ของค่ายละครทั้งคู่ค่าย โดยกันตนารับหน้าที่ในส่วนของการทำบท จัดหานักแสดง ตลอดจนการตัดต่อ-บันทึกเทป หรืองานด้านโปรดักชั่น ส่วนรัชฟิล์มทีวีก็มีบทบาทในเรื่องเวลาออกอากาศ

หาโฆษณา และหาดารา(ในสังกัด)อีกส่วนหนึ่ง เพราะเหตุว่าปกติละครตอนสี่ทุ่มยุคนั้นมักเป็นของรัชฟิล์มถ่ายรูป เวลาที่กันตนาจะออกมาในตอนวันเสาร์-อาทิตย์

ดาราในเรื่องนี้มีอีกทั้งดาราที่มีชื่อ อย่างพ่อนก “ฉัตรชัย เปล่งพานิช” ซึ่งตอนนั้นพึ่งส่งผลงานละครออกมาหลายช่อง อีกทั้งช่อง7 ช่อง5 และช่อง3 แล้วก็ดาราคนใหม่ของกันตนา

อย่างพี่เอ “เชิญจุติ มณเฑียรมณี” สาวเชียงใหม่วัย 16 ในตอนนั้น ซึ่งมีเกียรติประวัติเป็นนักกีฬาว่ายที่มีเหรียญมากถึง 60 เหรียญ แล้วก็เป็นโค้ชว่ายที่อายุน้อยที่สุด

จากเกียรติประวัติที่คนทั้งประเทศจำเป็นที่จะต้องตะลึง มีหรือที่กันตนาไม่เชิญชวนเธอมารับบทเป็นตัวละครที่เหมาะสมที่สุดอย่างบทนางเงือกราตรี ตัวเด่นของเรื่องนี้

และก็คนที่มารับหน้าที่เป็นผู้กำกับการแสดงในเรื่องที่ลงทุนสูงสุดประเด็นนี้ ไม่ใช่ใครอื่นไกลในกันตนา คนนั้นเป็นอาโอ๋ “ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์” ผู้ชายก่อนหน้าที่ผ่านมาหลายบทบาทนั่นเอง

ปัจจุบันนี้ คุณเอ ในวัย 45 ปี เป็นคุณแม่ของบุตรสาววัยทีน 2 คน ด้วยใบหน้ารวมทั้งรูปร่างที่ดูอ่อนวัยมาก ดูมีสุขภาพกายที่แข็งแรงรวมถึงมีความสุขกับการทำงาน

ได้ให้เกียรติมานั่งพูดคุยกับเรา แรงบันดาลใจสำหรับในการทำธุรกิจร้านอาหารมังสวิรัติ จริงๆแล้ว ในครอบครัวไม่มีใครทานมังสวิรัติเลย แต่ว่าพื้นฐานครอบครัวทำธุรกิจโรงแรมมาก่อน

ก็เลยมีการทำอาหารให้ลูกค้าที่มาใช้บริการรวมทั้งอาหารมังสวิรัติด้วย และก็เนื่องจากว่าเป็นคนต่างจังหวัด บ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้มีโอกาสได้สั่งสมความรู้เรื่องผัก

โดยเฉพาะผักพื้นบ้านและก็การเกษตรมาตั้งแต่เล็กจนกระทั่งโต ก็เลยเป็นสิ่งที่ลงตัวมากๆเมื่อเราคิดจะทำธุรกิจร้านอาหารมังสวิรัติ