Connect with us

Uncategorized

เอ๋ ปิยะดา อดีตนางเอกละครพื้นบ้าน

Advertisement

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงรุ่นใหญ่มากความสามารถที่ใครหลายคนรู็จักและชื่นชอบมาก นั่นคือ เอ๋ ปิยะดา เพ็ญจินดา

ปัจจุบันอายุ 58 ปี กำเนิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2507 เป็นนักแสดงชาวไทยในสังกัดบริษัท ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น

จำกัดและช่องหลากสี ทั้งนี้เอ๋ ปิยะดาเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงไทยเริ่มต้นเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดบริษัท ดีด้า วิดีโอ

Advertisement

โปรดักชั่น จำกัดและช่องหลากสี มีผลงานละครพื้นบ้านเรื่อง พิกุลทอง , ทิพย์เกสร และก็ เทพสามฤดูภายหลังเธอมีผลงาน

ละครอีกคับคั่งส่วนมากจะรับบทเป็นนางร้ๅยและแม่พระเอกนางเอกสลับกัน ทั้งนี้เธอเองมีโอกาสได้เปิดใจถึงชีวืตครอบครัว

ของเธอเอาไว้ว่า เป็นเรื่องราวที่ดีที่ เราได้แต่งงานมีลุก ซึ่งคนจะไม่ค่อยทราบ แล้วมักจะมีคนมาถามว่าพี่เอ๋เคยแต่งงานเหรอ

Advertisement

ก็เลยบอกว่าเคยสิ เอ๋มีลุกด้วย เนื่องจากตอนแต่งงานข่าวก็ไม่ค่อยมี ตอนนั้นเราไม่ทราบวิธีการว่าต้องทำยังไงออกสื่อเหรอ เราคิดแค่ว่า

เรารักกันเราก็แต่งงานกัน ซึ่งพอหลังจากแต่งงานแล้ว พอวันหนึ่งเราไปด้วยกันไม่รอดก็เลยแยกทางกัน ทำให้เรารู้สึกว่าเราเริ่มเติบโตขึ้นนะ

เพราะตอนนั้นเหมือนเรายังไม่รู้จักความรักดีเท่าที่ควร เมื่อเรามีลุกแล้วก็โชคดีอีกที่ได้ลุกดี คนโตลูกสาวอายุ 23 ปี เรียนจบที่เอแบค

Advertisement

คนที่สองลูกชาย 21 ปี เรียนเอแบค คนที่สามลูกชาย 18 ปี เรียนที่ม.มหิดล คนที่สี่ลูกชาย 10 ขวบ แม้ตอนนี้จะแยกทางกันอยู่กับสามี

แต่ก็ยังเจอไปมาหาสู่กันเป็นเพื่อนกันอยู่ เป็นอะไรที่เข้าใจใช่ไหมคะเรื่องแบบนี้ (หัวเราะ) แต่ต้องเข้าใจนะ ทุกอย่างเหมือนจะใช่นะ โอเค

แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่ แต่เราก็เป็นครอบครัวที่มีความสุขนะคะ ถึงจะไม่ได้เป็นครอบครัวที่อยู่ด้วยกัน เราแฮปปี้ที่จะแยกกันอยู่มากกว่า

Advertisement

นัดรวมพลเจอกันตามโอกาสสำคัญๆนอกจานกี้ยังเผยถึงประสบการที่แย่มากในชีวิตช่วงหนึ่ง โดยเล่าว่า แย่สุดๆนี่คือ ตอนนั้นพ่อจากไป บวกกับ

สามีก็ขอเลิก และมีของติดตัวแค่ชิ้นเดียวคือ รถ และมาโดนvโมยหายอีก ภายในปีเดียวกัน ทุกอย่างถาโถมเข้ามาเต็มๆแต่ไม่เคยคิดว่าจะตายนะ

แค่เข้าใจว่า อ๋อ ทำไมคนถึงอยากจะฆ่ๅตัวๅตๅย เพราะว่าโดนปัญหารุมไม่รู้จะเริ่มแก้ตรงไหน แต่ว่าโชคดีตอนนั้นที่มีลุก ทำให้เราตั้งหลักได้ มีแรงฮึดสู้

Advertisement

เราอยากจะนอนกอดลุก มีบ้านของเราเอง ก็เลยทำงานๆเก็บตังค์ รับงานไม่หยุดเลย 7 วันก็รับ 7 เรื่อง เช้าไปอีกเรื่อง เที่ยงไปอีกเรื่อง เย็นๆบ่ายๆ

ไปอีกเรื่องหนึ่ง ดึกอีกเรื่องหนึ่ง จนกระทั่งสว่างก็ไปถ่ายอีกเรื่องหนึ่ง จะว่าเป็นการหนีปัญหาก็ว่าได้ค่ะ ทำงานเยอะๆจะได้ไม่คิด ทำอยู่แบบนี้ 2-3 ปี รู้สึกว่าเหนื่อยมาก

จนบางครั้งนะนั่งขับรถอยู่ร้องไห้ ไม่ไหวแล้ว อยากจะขับแรงๆแล้วพุ่งชนกำแพงตๅยไปเลยแต่พอคิด เอ๊ะแล้วเกิดไม่ตๅยแต่พิกๅรขึ้นมาล่ะ ไม่เอาดีกว่าใครจะเลี้ยงฉัน

ใครจะดูแลลุก (หัวเราะ) 3 ปี เหนื่อยมาก กว่าจะหลุดพ้นมาได้ เป็นอะไรที่สนุกนะมันต้องสู้ พอมาถึงวันนี้มองกลับไป มีเรื่องเล่าเก่าๆให้เราพูดถึง และนั่นแหละเป็นบทเรียนของเราว่าจะต้องสู้นะ

Advertisement

error: Content is protected !!