ในช่วงเช้าของวันที่ 17 กรกฎาคม 2565 เวียร์ ศุกลวัฒน์ ได้ยกขันหมากมาสู่ขอ วิกกี้ พีมนต์ญา อย่างเป็นทางการ ท่ามกลาง

ครอบครัวแล้วก็คนสนิทร่วมงาน ซึ่งบรรยากาศก็เต็มไปด้วยภาพของความรักและความอบอุ่นสุดชื่นมื่นของสองครอบครัว

โดยพิธีหมั้นช่วงเช้าเปิดตัวเจ้าสาวมาในลุคชุดไทยศิวาลัยประยุกต์สีขาวทรงหางปลา รูปแบบของงานดีไซน์ยังคงคอนเซปต์น้อยแต่มากเรียบแต่โก้ตามแบบฉบับของวนัช กูตูร์ เช่นเดิม

วัตถุดิบที่นำมาใช้ในการตัดเย็บ เน้นความเป็นมา ความสวยงาม และก็ทรงคุณค่า โดยเฉพาะผ้าไหมจังหวัดลำพูนสีขาว ivory ผืนที่ใช้ตัดเย็บชุดเจ้าสาว

เป็นผ้าไหมที่สั่งทอขึ้นมาใหม่เป็นพิเศษ และขึ้นทะเบียนรับรองผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทย ตรานกยูงพระราชทาน จากกรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยตั้งชื่อลายทอผ้าไหมผืนนี้ว่า “พีมนต์ญาคณารศ”

ตัวเสื้อแขนยาวตัดเย็บจากผ้าซีทรูเนื้อดี เพิ่มลวดลาย กิ่ง ก้าน ใบ แบบฝรั่งเศส พร้อมกับนำมาประดิษฐ์ทำเป็นสไบที่มีความโล่งใส ส่วนของตัวผ้านุ่งนั้นนำผ้าไหมที่สั่งทอพิเศษนำมาตัดเย็บเป็นรูปทรงเมอร์เมด

แต่ยังคงมีจีบหน้านางไว้เพื่อคงอัตลักษณ์ของความเป็นชุดไทยอยู่ และเพิ่มความหรูหราให้กับชุดไทยศิวาลัยด้วยงานปักด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ทั้งชุด เป็นอีกหนึ่งชุดไทยประยุกต์ที่งดงามหรูหรามากมายทีเดียว

ส่วนเจ้าบ่าวนั้นมาในลุคชุดสูทสากลสีเทาอมฟ้า เสื้อตัวในเป็นเชิ้ตสีขาว สวมทับด้วยแจ็กเก็ตและชุดสูทที่ตัดเย็บจากผ้าวูลเนื้อดีที่สั่งนำเข้าจากอิตาลี

เพิ่มดีเทลด้วยหูกระต่ายสีขาวและก็ติดพินสูทที่สั่งทำขึ้นพิเศษที่อกข้างซ้าย เป็นอีกหนึ่งลุคคูลๆของเจ้าบ่าวสไตล์หนุ่มเวียร์ที่หล่อใจละลายไปเลย

ส่วนชุดในพิธีฉลองของบ่าวสาวนั้น สาววิกกี้เปิดตัวมาในลุคชุดแต่งงานสากลทรงซุปเปอร์บอลกาวน์ เพิ่มความเซ็กซี่ด้วยผ้าโปร่งแสงทรงวีช่วงหน้าอก

และเพิ่มลูกเล่นด้วยงานปักช่วงปลายแขน และเพิ่มความหรูหราให้กับชุดเจ้าสาวด้วยงานปักคริสตัลชวาลอฟสกี้ทั้งชุดอีกเช่นกัน นอกจากนี้ยังปักโลโก้ของบ่าวสาว VW ที่ผ้าเวลสำหรับเจ้าสาวเดินเข้างานด้วย

ครั้งนี้พิเศษสุดกับการเปิดตัวเข็มกลัดและพินสูทสำหรับคู่บ่าวสาว โดยการนำสัญลักษณ์โลโก้ของงานแต่งซึ่งเป็นตัวย่อ VW มาจัดทำเป็นเข็มกลัดและพินสูทที่มีเพียงหนึ่งเดียว

วัสดุตัวเรือนเป็นเงินแท้ชุบด้วยทองคำขาว 18k และฝังด้วยเพทายขาว ผลิตด้วยมือเป็นหลักโดยใช้เทคนิคของช่างทองไทยที่จะต้องอาศัยประสบการณ์สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น

มีความใส่ใจในรายละเอียดตั้งแต่วิธีการดีไซน์และขึ้นรูปตัวอักษร ขัดแต่ง และก็ฝังอัญมณีด้วยมือทั้งหมด รวมถึงเทคนิคการลงยาสีที่สามารถเลือกเฉดสี

เพื่อให้เข้ากับชุดหรือธีมสีที่ต้องการได้อย่างลงตัวทำให้ได้ผลงานที่สวยงดงามดูเลอค่ามีเอกลักษณ์ และมีเพียงหนึ่งเดียว รวมมูลค่าของชุดบ่าวสาวทั้ง 4 ชุดในงานนี้กว่าหนึ่งล้านบๅทเลยทีเดียว