วันนี้ 17 เดือนกรกฎาคม สำหรับพระเอกหนุ่มมาดหล่อ เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ ที่ได้ควงแฟนสาวนอกวงการ วิกกี้-พีมนต์ญา เวธน์ปริวัฒน์ เข้าสู่ประตูวิวาห์สุดชื่นมื่น

โดย เวียร์ ศุกลวัฒน์ ได้สวมชุดสูทสีเทาสุดเนี้ยบเข้ากับชุดของ วิกกี้ ที่เลือกเป็นชุดไทยสีขาวบริสุทธิ์ พร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ความสุขจนล้นออกมา ซึ่งบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นของคู่บ่าวสาวป้ายแดง รวมไปถึงคนในครอบครัว ญาติ และก็เพื่อนๆที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดี ทั้งยังยังมาเป็นสักขีพยานรักในครั้งนี้อย่างคับคั่ง

ดังนี้ พื้นที่ในงานนั้นถูกเนรมิตให้คล้ายกับสวนหลังบ้านตามที่ เวียร์-วิกกี้ ต้องการ เพราะอยากให้ผู้ที่มาร่วมงานรู้สึกประทับใจ อบอุ่น และก็สบายใจ เหมือนได้มาพักผ่อนปัจจุบันเวียร์และวิกกี้ ที่บอกเล่าจุดเริ่มแรกของความรักให้ได้ฟังกัน

เวียร์กับวิกกี้ได้เจอกันที่ใต้น้ำเมื่อ 4-5 ปีก่อน เพราะวิกกี้มาช่วยเป็นสตันต์เพราะเขาเป็นนักดำน้ำ ในละครเรื่องสัมปทานหัวใจ ซึ่งตอนนั้นเวียร์ยังไม่อินเรื่องมุดน้ำ เพียงแค่ไปขี่มอเตอร์ไซค์ออกทริปละครก็ไม่ต้องถ่ายแล้ว หลังจากนั้นก็แยกย้ายไม่ได้เจอกันเลย

ย้อนกลับไปจนวันที่ได้มาเจอกันอีก เวียร์กลับมาจากถ่ายทำหนังที่ต่างประเทศ นึกถึงเพราะถ่ายดำน้ำมาก็ชวนเพื่อนๆที่เรียนดำน้ำด้วยกัน ก็เลยโทรหาเผื่อเขาจะพาเราดำน้ำได้ก็เลยได้ติดต่อเขาไปอีกครั้งหนึ่ง ถามว่าเชิงจีบมั้ยเป็นณ ตอนนั้นโสดแล้วยังไง แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรน

มันเริ่มต้นจากอายุเราใกล้เคียงกัน เป็นเพื่อนกันมา แล้วก็เราก็ผ่านอะไรมาเยอะ เวลาพูดคุยกันมันก็พูดกันตรงๆแต่เราห่างการจีบสาวมานาน บางทีก็ไม่รู้แม้อายุจะขนาดนี้ ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็เลยคุยเรื่องที่เราชอบเหมือนกัน ซึ่งเวียร์เล่าต่อว่า ทีแรกๆวิกกี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวียร์เป็นใคร เพราะไม่ได้ดูโทรทัศน์ ซึ่งวิกกี้เล่าต่อว่า ครั้งแรกที่เห็นผู้ชายคนนี้สูงดีนะ

ก่อนที่จะวิกกี้จะเล่าให้ฟังว่าเวียร์เริ่มจีบด้วยการเชิญชวนไปไหนมาไหนเสมอๆเชิญบ่อยมาก จะมีกิจกรรมตลอด ชวนไปเดินป่ามั้ย เชิญชวนตลอดแต่ว่าวิกกี้มิได้ไปเพราะว่ายุ่ง มีทั้งยุ่งทิพย์และไม่ว่างจริงๆและก็ครั้งแรกที่พ่อแม่พบพี่เวียร์แล้วแม่ก็มาสะกิดแล้วถามว่าใช่พี่เคอปรี่รึเปล่า พอเพียงมารู้ว่าเขาเป็นคนใด ก็รู้สึกว่าไม่ดีกว่า ด้วยความต่างของอาชีพ ส่วนเราเป็นนักธุรกิจ

ก่อนที่จะเวียร์จะเล่าว่า การที่เป็นนักแสดงและมีชื่อเสียงเขาก็คงจะกลัว แต่ว่าสิ่งที่เราทำเป็น พวกเราต้องทำให้เขาเชื่อใจ ว่าเราอยากคุย อยากทราบจะด้วยจริงๆซึ่งวิกกี้ก็บอกว่าเขาก็ชวนหลายรอบมาก เขาไม่ละความพยายามเขาเลย ก็เลยยอมไป ไปเพราะอยากรู้จะเขามากขึ้น เพราะเขาชวนไปในที่ที่เราอยากไป จนเขาเอาดำน้ำมาล่อ

ซึ่งเป็นมุดน้ำที่เราสนใจมากมาย หลังจากที่เป็นเพื่อนกันมาเรื่อยๆไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เราก็คิดอะไรเหมือนกันหลายๆอย่าง พอได้ไปไหนมาไหนร่วมกัน เรารู้สึกว่าเราสามารถพึ่งพาเขาได้ และเราก็อยู่ง่ายกินง่ายเหมือนกัน ไปไหนง่ายๆก็เลยไม่มีปัญหาใน

เรื่องนี้ เวียร์ เล่าต่อว่า มันค่อยซึ มในสิ่งที่เราถูกใจเหมือนกัน ก็ปรับกันไปปรับกันมา พอเพียงคนมันเริ่มรู้สึกดีกันแล้ว ความต่างของกันก็เลยทำให้เริ่มรับได้ เบาๆปรับกันมาเรื่อยๆจากเพื่อนมาเป็นแฟนกัน ก่อนที่วิกกี้จะบอกว่าคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตเราก็ปรารถนาผู้ที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ

ก่อนที่จะเวียร์จะเล่าว่า เพราะอยู่คนเดียวมาตลอดชาติเติบโตมาด้วยตนเอง จากเด็กต่างจังหวัดมาต่อสู้ด้วยตัวเอง แต่สำคัญๆก็คือคนเดียว เวลาเกิดอะไรขึ้นก็จะเอาตัวเองให้รอดก่อน ก็มีความเห็นแก่ตัว แต่วิกกี้เขามาเปลี่ยน เขาพูดตรงๆเลย ช่วงแรกผมรู้สึกโกรธนะ เพราะผมก็เป็นคนแบบนี้ก็อยู่มาแบบนี้ เราก็อยู่ได้ มีอีโก้ พอลองเปลี่ยนแปลงทดลองดูให้มันกว้างขึ้น ใส่ใจมากขึ้น โดยเริ่มที่เขา เขาทำให้เราเป็นคนดีขึ้น เลยรู้สึกว่าถ้าอยู่กับผู้ที่เขาทำให้เราเป็นคนดีขึ้นเขาต้องเป็นภรรยาที่ดี เป็นเพื่อนที่ดีได้ เพราะเขากล้าที่จะพูดในสิ่งที่ไม่ดีของเรา สุดท้ายไม่ว่าจะใดๆ จะทะเลาะก็คุยกันให้จบ อย่าให้ข้ามคืน พรุ่งนี้ก็รันใหม่ เพราะว่าควรมีชีวิตกันไปอีกนาน

และในวันที่ขอแต่งงาน วิกกี้ เล่าให้ฟังว่า วันนั้นง่วงนอนมาก วันนี้ตอนช่วงเช้าเขาบอกจะจัดงานปาร์ตี้กัน ก็สมัครใจช่วยแต่เขาบอกว่าไม่ต้อง ก็รู้สึกตงิดแล้ว และก็เขายังบอกว่าทุกคนสวมชุดสีขาว ตอนนั้นรู้สึกว่าเขาจะขอแต่งงานรึเปล่าเพราะเขาเป็นคนเก็บความลับไม่เก่ง และไม่มีความรู้สึกว่าเขาจะเซอร์ไพรส์เนื่องจากว่าเขาไม่ใช่คนเซอร์ไพรส์ เราก็เลยเตรียมชุดขาวเอาไว้งามๆคอยจนกระทั่ง 4 ทุ่มครึ่งก็เริ่มง่วงเมื่อไหร่จะขอแต่งงาน

ก่อนที่ วิกกี้ จะกล่าวความรู้สึกจากใจให้เวียร์ได้รู้ว่า ขอบคุณที่รักมากๆที่อยู่ด้วยกัน ขอให้อยู่ด้วยกันไปนานๆอยากให้ที่รักแข็งแรงๆจะได้เป็นครอบครัวที่สุขภาพแข็งแรง ร่าเริงแฮปปี้ จะได้ไปเที่ยวกันเยอะๆด้วย แล้วก็หนูก็จะดูแลหวานใจให้ยอดเยี่ยมอย่างที่เคยสัญญาไว้ค่ะ ส่วน เวียร์ ก็กล่าวความรู้สึกของตัวเองให้เมียสาวฟังว่า วิกกี้เป็นผู้ที่มาทำให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น อาจจะมิได้รู้จักกันมาเป็นสิบปี แต่ว่าช่วงระยะเวลาสั้นๆเพียงนี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่าวิกกี้รักผมมากแค่ไหน วิกกี้ดูแลผม ดูแลทุกคน วิกกี้เป็นคนเสียสละ รักครอบครัว เป็นคนจริงใจ เป็นคนเด็ดขาด แต่เป็นคนน่ารักน่าเอ็นดู ใจเย็นแต่ตื่นสาย

จับมือกันฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างไม่มีอะไรที่จะยากเกินไปกว่าเรา 2 คนจะจัดการได้ เราไม่มีวันแพ้หากเรารักกัน วันนี้เราตั้งใจที่จะเป็นครอบครัว ปะป๊าอยากจะฝากให้วิกกี้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ป๊าอยากให้วิกกี้หายจากภูมิแพ้เร็วๆป๊าจะดูแลวิกกี้เอง วิกกี้ก็ดูแลปะป๊าด้วยนะครับ ป๊ารักวิกกี้นะ