
Uncategorized
ลุงได้เจอหน้าลูกชาย
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “แพรR1 PearR1” โพสต์คลิปสุดซึ้ง ช่วย ลุงดาวเรือง ชายเร่ร่อน นอนข้างทาง ได้เจอกับลูกชายอีกที หลังพลัดพรากนาน 10 ปี ซึ่งคลิปดังกล่าวกลายเป็นไวรัลดัง มีคนพูดถึงจำนวนมาก

แพรR1 เปิดใจ หลังเข้าช่วยลุงเร่ร่อน ได้เจอหน้าลูกชายที่พลัดพราก 10 ปี

ล่าสุดสื่อได้ติดต่อไปยัง น.ส.ทวินันท์ เพิ่มพูล หรือ แพร อายุ 28 ปี อินฟลูเอนเซอร์ เจ้าของคลิป เล่าว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตอนทำอาหารไปแจกคนไร้บ้าน ประมาณ 50 ชุด

ตระเวนแจกตั้งแต่ตอนเช้า บริเวณหาดนาจอมเทียน พัทยา จังหวัดชลบุรี ใกล้บ้านของตน จนกระทั่งตอนเที่ยงมาเจอลุงดาวเรือง อายุ 55 ปี กำลังเดินหามหอยที่เก็บมาจากทะเล

ตนเลยจอดรถถามว่า “ลุงกินข้าวหรือยัง ลุงอยู่ที่ไหน กำลังไปที่ไหน”
ลุงตอบกลับมาว่า “ยังไม่ได้กินข้าวเลย กำลังเก็บหอยไปขาย ผมไม่มีบ้านอยู่ วันไหนขายหอยไม่ได้ ก็จะไม่มีข้าวกิน ลุงไม่กล้าขอข้าวใครกิน”

พอตนได้ฟังก็รู้สึกสงสาร ก็เลยให้ข้าวไป 2 ชุด พร้อมกับเงิน 300 บาท ไว้ซื้อข้าวกินพรุ่งนี้
จากนั้นตนให้ทีมงานพาลุงไปส่งที่พักแถวชายทะเล เนื่องจากลุงโดนหมากัดและปวดขา

น.ส.ทวินันท์ พูดว่า ต่อมาวันที่ 31 พฤษภาคม ตนนำคลิปของลุงไปโพสต์ในติ๊กต็อก เจตนาเพื่อให้กำลังใจคนดูคลิปว่ามีคนไร้บ้าน คนลำบาก แต่เขาก็ยังสู้ชีวิต

ซึ่งคลิปนี้ได้กลายเป็นกระแสมียอดเข้าชมกว่า 1 ล้านครั้ง จากนั้นผ่าน 1 วัน มีน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ทักเข้ามาในไอจีบอกว่า “มีลูกชายกำลังตามหาลุงในคลิป”

ตนก็เลยได้สอบถามข้อมูลเพื่อยืนยันว่าคนที่กำลังตามหาลุง เป็นลูกชายจริงหรือไม่ โดยการขอชื่อจริงของลุง รวมถึงรูปถ่าย และขอเบอร์ติดต่อลูกชายของลุงไว้

น.ส.ทวินันท์ กล่าวอีกว่า วันถัดมาตนได้ชวนทีมงานออกไปตามหาคุณลุงอีกที แม้กระนั้นเวลานี้ไม่รู้เลยว่าลุงอยู่ที่ไหน จึงนำรูปถามชาวบ้านว่าเห็นลุงหรือไม่

จนทราบว่าลุงนอนอยู่ที่ศาลเจ้าเก่าๆอยู่ติดกับทะเล พอตนไปถึงเห็นลุงนอนหลับอยู่ เลยเข้าไปปลุก ถามว่าลุงชื่ออะไร ลุงตอบว่าชื่อ “ดาวเรือง” ก็ยิ่งทำให้ตนมั่นใจ

จึงเปิดรูปของลุงที่ลูกชายโพสต์ตามหาพ่อมาตลอด เพื่อถามว่าคนนี้ใช่ลุงหรือไม่ เมื่อลุงเห็นก็ตอบว่า “นี่รูปผมนานแล้ว ผมจำได้เลยตอนที่ถ่ายรูปแขนผมเจ็บ ทำไมถึงมีรูปผม”

น.ส.ทวินันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนั้นจึงวิดีโอคอลให้ลุงได้คุยกับลูกชาย คำแรกที่ลูกชายพูดกับลุง ถามว่า “บิดากลับบ้านไหม เดี๋ยวผมจะไปรับ”

พอลุงได้คุยกับลูกชายก็ร้องไห้ออกมา ไม่คิดว่าจะมีคนตามหา เป็นครั้งแรกที่คุณลุงได้คุยกับลูกชายในรอบ 10 ปี

ลุงเล่าให้ฟังว่ามาทำงานที่พัทยา แต่โดนโกงค่าแรงตอนทำงาน จึงเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตทำให้ลำบาก เปลี่ยนเป็นคนเร่รอน ไม่มีเอกสารอะไรติดตัวเลย

ซึ่งลูกชายของลุงบอกว่า พยายามตามหาพ่อมาตลอด 10 ปี มาหาที่พัทยาก็ไม่พบ จนคิดว่าพ่ออาจจะเสียชีวิตไปแล้ว

น.ส.ทวินันท์ กล่าวอีกว่า ลูกชายของลุงเดินทางมาจากจ.เลย เพื่อมารับลุงกลับบ้าน ตอนที่ลุงได้พบกับลูกชาย ก็เข้าไปกอดกันและร้องไห้
ซึ่งลูกชายของลุง พาลูกน้อยมาด้วย น้องถามลุงว่า “คุณปู่หิวข้างไหม ไปรับประทานข้าวกัน”

ตอนนั้นตนรู้สึกจุกอก ดีใจ แล้วก็ซึ้งใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง ทำให้พ่อกับลูกได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังพลัดกัน 10 ปี